ตู้สติกเกอร์ เครื่องแรก

ตู้สติกเกอร์ รุ่นแรกทำได้เพียงการถ่ายภาพแบบง่ายๆ โดยมันจะตั้งอยู่ตามศูนย์เกม สวนสนุก ช็อปปิงมอล์ และสถานีรถไฟทั่วประเทศ และที่รู้จักกันดี คือ ถนนสายช็อปปิ้งชื่อดัง “ทาเคชิตะ” (Takeshita-dori) ที่รู้จักกันดีว่าเป็นศูนย์กลางวัยรุ่น “ฮาราจูกุ” (Harajuku) ซึ่งมีร้านค้าชื่อ ‘พุริคุระ แลนด์ โนอา’ (Purikura Land Noa) เป็นแหล่งรวม “ตู้สติกเกอร์” โดยเฉพาะ มีมากกว่า 25 เครื่อง แถมยังมีห้องให้แต่งตัวและแต่งหน้าได้ด้วย เพราะแบบนี้เองจึงเป็นแรงดึงดูดให้เด็กนักเรียนสาวๆ และคู่รักวัยรุ่นมาใช้บริการ โดยเฉพาะช่วงสุดสัปดาห์และวันหยุดเทศกาลต่างๆ

สำหรับราคาการใช้บริการ ตู้สติกเกอร์ ในญี่ปุ่น ถือว่าใกล้เคียงกับของไทย คือ 200-400 เยน หรือประมาณ 57-114 บาท (*อัตราแลกเปลี่ยน 0.29 บาท/เยน; 2564, 15 ก.พ.) ส่วนของไทย ราคา 100 บาท ตามที่จะเลือกได้ 2 แบบ รูปเล็ก รูปใหญ่ ถ่ายได้ 3-4 แอ็กชัน โดย 3 แอ็กชัน ได้ 2 ใบ 4 แอ็คชัน 1 ใบ 

ในอดีต หากจำได้ กระแสตู้ถ่ายรูปนั้นมาแรงมาก มีการพัฒนาการจากตู้ถ่ายรูปพื้นหลังสีน้ำเงิน ภาพไม่ชัดมากนัก แล้วต่อมาเป็นตู้ถ่ายรูปที่ใช้แฟชั่นญี่ปุ่นเป็นตัวชูโรง มีความน่ารัก องค์ประกอบเยอะ และแต่งภาพได้หลากหลาย แล้วพักใหญ่หลังจากนั้น ตู้ถ่ายรูปทั้งสองลักษณะก็หายไปจากความนิยม ตู้ถ่ายรูปเคยได้รับความนิยม แต่เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น เราต่างก็มีสมาร์ทโฟน ที่ใช้ Selfie เมื่อไร ที่ไหนก็ได้ และคุณภาพกล้องก็ดี พัฒนาไปเรื่อย ๆ ตามยุคสมัย ทำให้แรงกระเพื่อมนี้ก็ส่งผลโดยตรงให้เหล่าธุรกิจโฟโต้บูธในเมืองไทยค่อย ๆ ห่างหายไปในที่สุด

พิกัด ตู้สติกเกอร์ ในกรุงเทพฯ

ตู้สติกเกอร์

ตู้จากร้าน Daddy_stickerland ตั้งอยู่ใจกลางสยามเลยแหละ ด้วยกระแสที่ฮิตฮอตปังมากไม่ไหวของตู้ถ่ายรูปในตอนนี้ บวกกับความน่ารักของแบรนด์ที่ขายของกระจุกกระจิกสุดคิ้วท์กันอยู่แล้ว จึงทำให้ตู้ถ่ายรูป และเฟรมกรอบรูปต่างๆ มีความน่ารักสุดๆ

สถานที่:

สยามสแควร์ ซอย2,10330,กรุงเทพฯ (สถานี BTS ที่ใกล้ที่สุด: สยาม)

เวลาเปิดทำการ:

เปิดบริการทุกวัน 11.30 – 20.30 น.

ช่องทางติดต่อ:

โทร 084-667-7785

ติดต่อ ทาง Line

ติดต่อ ทาง Facebook Messenger

ตู้สติกเกอร์

อันนี้ฮอตมากกับ Photoautomat ตู้ถ่ายรูปอัตโนมัติภายใต้โปรเจคของ Sculpturebangkok ตู้นี้จะไม่อยู่กับร่องกับรอยนะจ๊ะ จะย้ายไปหลายที่เลย เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ สถานที่ให้คนได้มาถ่ายภาพเก็บเป็นความทรงจำกันได้แบบทั่วถึง ตู้ที่นี่มี Pet Friendly แค่ที่เดียวนะ สามารถนำน้องหมา น้องแมวเข้าไปถ่ายด้วยได้

สถานที่:

WWA Cafe x Chooseless ซอยเอกมัย21, 10110, กรุงเทพฯ (สถานี BTS ที่ใกล้ที่สุด: เอกมัย)

เวลาเปิดทำการ:

เปิดบริการวันพุธ – อาทิตย์ 11.00 – 20.00 น.

ช่องทางติดต่อ:

ติดต่อ ทาง Facebook Messenger

ตู้สติกเกอร์

ตู้ของ Sculpturebangkok มาตั้งอยู่ที่ใจกลางสยามแล้วจ้า ซึ่งแต่ละตู้ของ Photoautomat จะมีความแตกต่างกันออกไปอย่างเช่น เฟรม กรอบรูป ยังไงก็ลองไปดูกันได้ มีทั้งภาพขาว ดำ และสีแบบเรียบ ๆ

สถานที่:

ลิโด้ สยามสแควร์, 10330, กรุงเทพฯ(สถานี BTS ที่ใกล้ที่สุด: สยาม)

เวลาเปิดทำการ:

เปิดบริการทุกวัน 10.00 – 21.00 น.

ช่องทางติดต่อ:

โทร 096-921-7679

ติดต่อ ทาง Facebook Messenger

ตู้สติกเกอร์

ชวนเพื่อนมาเก็บภาพแบบชิคๆ คูลๆ กับ Everyday Photo Booth กัน จิบเครื่องดื่ม เลือกซื้อสินค้าดี ๆ ไม่ว่าจะเป็นของใช้ส่วนตัว เจลอาบน้ำ, โลชั่นบำรุงผิว, หรือจะเป็นเครื่องหอมตกแต่งบ้าน เทียนหอม, ถุงหอม, ก้านไม้หอมกระจายกลิ่น และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย แถมได้แชะรูปชิค ๆ ด้วย เป็นตู้ของทางร้านเองเลยน้า

สถานที่:

ร้าน Everyday Kmkm สยามสแควร์ซอย 3, 10330, กรุงเทพฯ (สถานี BTS ที่ใกล้ที่สุด: สยาม)

เวลาเปิดทำการ:

เปิดบริการทุกวัน 11.00 – 21.00 น.

ช่องทางติดต่อ:

โทร 02-237-1148

ติดต่อ ทาง Facebook Messenger

ธุรกิจตู้ถ่ายรูป รอดหรือร่วง?

กลวิธีหลักที่ใช้ในการโปรโมตตู้ถ่ายรูปคือ การใช้คนดังในสังคมมาช่วยเพิ่มความสนใจให้ผู้คนที่เสพข่าว ดูแฟชั่นในโซเชียลมีเดีย เราจะเห็นได้ว่า ในช่วงของการเปิดตัวตู้ถ่ายรูป บางแบรนด์จะมีการจัดวันอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer Day) เชิญชวนเหล่าดาราที่รู้จักมาร่วมงาน ซึ่งถือเป็นการโฆษณาแบบฟรี ๆ ในตัวด้วยสื่อที่ไม่ต้องเสียเงิน

อย่างแบรนด์ตู้ถ่ายรูปชื่อดัง Sculpture ก็วางยุทธศาสตร์ธุรกิจของตัวเอง โดยมองช่องว่าง ที่มี 2 ข้อ คือด้วยความที่กรุงเทพ ไม่มีสิ่งนี้มาก่อน ความต้องการที่อยากได้ตู้ถ่ายภาพเลยเยอะมาก มีคนมาต่อคิวหลายชั่วโมง ได้รับฟีดแบ็กกว่าที่คิด ทำให้เจ้าของธุรกิจสามารถตัดสินใจหาทีมงาน ช่าง คนเขียนโปรแกรม เพื่อให้ตู้ถ่ายภาพเป็นระบบออโต้แมตเหมือนที่เราใช้ที่ต่างประเทศให้ได้   บางทีการเอาของเก่ามาใช้ใหม่ก็เป็นเรื่องน่าสนใจและเป็นโอกาสทางธุรกิจ ที่แม้จะมีเค้าโครงหลักการเดิม แต่เมื่ออาศัยการปรับตัว ทำความเข้าใจกลุ่มลูกค้าอย่างลึกซึ้ง เทคโนโลยี และหัวคิดของนักธุรกิจสมัยใหม่ ก็ทำให้ธุรกิจตู้ถ่ายรูปในวันวาน เปลี่ยนหน้าเปลี่ยนตา กลับมาเป็นตู้ถ่ายรูปที่ได้ความนิยม ผู้คนต่อแถวรอกันมากมาย

เมื่อมองธุรกิจตู้ถ่ายรูปแล้ว เราอาจนึกไปถึงธุรกิจอื่น ๆ ได้ ธุรกิจตู้ถ่ายรูปเป็นโมเดลสำคัญสำหรับนักธุรกิจที่อยากลงทุนกับอะไรที่เคยมีมาแล้ว ทำให้มันกลับมาบูมอีกครั้ง โดยสิ่งที่สำคัญมากกว่าการเป็นตู้ถ่ายรูปที่ประสบความสำเร็จในแง่ธุรกิจ คือหลักการคิด ยุทธศาสตร์ และการวิเคราะห์ตลาดอย่างลึกซึ้ง   หากคุณจะเริ่มทำธุรกิจ ลองเอี้ยวมามองการเกิดใหม่ของตู้ถ่ายรูป ก็อาจทำให้คุณได้ไอเดียใหม่ ๆ ในการประกอบธุรกิจของตัวเองได้เช่นกัน

ติดตามเรื่องราว : เกม GTA