Christina Aguilera ชีวิตวัยเด็ก ถูกพ่อตบ จมกองเลือด

2 มีนาคม 2003 เพลง Beautiful ของ Christina Aguilera ได้ขึ้นอันดับ 1 ในอังกฤษ เพลงนี้เป็นเพลงที่ Linda แต่งไว้เพื่อใช้เป็นซิงเกิ้ลสำหรับการกลับมาเป็นศิลปินเดี่ยวของเธอ ซึ่งแต่งในช่วงที่เธอท้อแท้ หมดหวัง และเมา เธอเล่นให้คริสติน่าฟังในคืนหนึ่ง และคริสติน่าอยากได้เพลงนี้ ลินดาจึงตัดสินใจให้เธอร้องเดโม่ ซึ่งก่อนจะอัดเพลงนี้ลินดาให้คริสติน่าเล่นเรื่องประสบการณ์เกี่ยวกับตัวเธอ จนถึงช่วงที่เธอเล่าถึงการถูกพ่อของเธอตบตี คริสติน่า ร้องไห้และขอยกเลิกไปก่อน แต่ลินดาไม่ยอม

ครั้งหนึ่งในช่วงอายุเพียง 4 ขวบ นักร้องดังอย่าง Christina Aguilera เคยนอนจมกองเลือด หลังจากที่ถูกพ่อแท้ๆของเธอ ทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ด้วยเหตุผลง่ายๆเพียงว่า ตัวเธอนั้นเล่นเสียงดังเกินไป จนทำใหฟ้พ่อของเธอตื่น แม่ของเธอกล่าวว่า “ ฉันเห็นลูกนอนจมกองเลือด จึงได้วิ่งไปอุ้มเธอขึ้นมา ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ลูกบอกว่า ‘พ่ออยากงีบ แต่หนูเล่นเสียงดังเกินไป’ ” เมื่อรู้เรื่องเข้า เปรียบเป็นฟางเส้นสุดท้ายบนหลังลา เธอได้เก็บข้าวของและพาลูกสาว 2 คน หนีออกจากบ้านทันที

แต่ความเจ็บปวดนั้นก็ยังคงฝังอยู๋ในใจของ คริสติน่า จากคำให้สัมภาษณ์ของเธอ ที่ระบุว่า “ฉันได้เห็นสิ่งที่เลวร้าย การผลักกันไปมา การตบตีและการมีปากเสียง ฉันไม่เคยรู้สึกปลอดภัยในชีวิต รู้สึกว่าตัวเองไร้อำนาจใดๆ มันเป็นคนความรู้สึกที่แย่ที่สุดในโลก” เธอเปิดเผยอีกว่า ด้วยเหตุผลที่ครอบครัวมีปัญหาแบบนี้ ทำให้เธอหันไปพึ่งดนตรีและเสียงเพลง เพื่อเป็นที่ระบายอารมณ์ความเก็บกดต่างๆ ” ฉันร้องเพลงเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ ความเจ็บปวดที่บ้าน คือจุดกำเนิดของความรัก ที่ฉันมีให้กับดนตรี”

หลังจากที่ คริสติน่า อากีเลร่า โด่งดังมีชื่อเสียง ประสบความสำเร็จในอาชีพ มีเงินทองมากมาย พ่อของเธอก็ได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง อ้อนวอนขอร้องให้ยกโทษในสิ่งที่ได้กระทำลงไป ซึ่งเธอก็ได้ยอมให้เขากลับเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง แต่ไม่นาน เธอก็รู้สึกว่า “พ่อไม่ใช่สิ่งจำเป็นในการดำเนินชีวิตของฉันเลยแม้แต่นิดเดียว” ในปี 2002 พ่อได้ออกมาปฏิเสธว่า ตัวเองไม่เคยทำอะไรรุนแแรงถึงขนาดนั้น ยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่คนดี สมบูรณ์แบบ แต่ยืนยันว่า รักลูกทั้งสองคนมาก

Christina Aguilera

เพลงสะท้อนชีวิต คริสติน่า อากีเลร่า และมู่หลาน

Christina Aguilera

ย้อนกลับไปในปี 1998 คริสติน่า ในวัย 16-17 ปี ได้รับโอกาสจากดิสนีย์ให้เข้ามาเป็นผู้ถ่ายทอดเพลงที่มีชื่อว่า “Reflection” บทเพลงที่สะท้อนเรื่องราวชีวิตของตัวละคร “มู่หลาน” นางเอกของเรื่อง แม้ระยะห่างจากเวอร์ชั่นแรกและเวอร์ชั่นล่าสุดจะทิ้งช่วงนานกว่าสองทศวรรษ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเพลงนี้เป็นอีกหนึ่งเพลงที่ช่วยแจ้งเกิดให้เธอ รวมไปถึงเสียงร้องของเธอที่ฝากไว้ในเพลง Reflection เวอร์ชั่น 2020 สะท้อนให้เราเห็นถึงประสบการณ์ชีวิตของเธอที่เติบโตขึ้นตามเสียงร้อง 

“ตอนที่กำลังบันทึกเสียง ‘Reflection’ เวอร์ชันใหม่นี้ มันเป็นช่วงเวลาที่ฉันเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกจริง ๆ ฉันน้ำตาไหลหลายครั้ง ฉันจมดิ่งอยู่กับอารมณ์เหล่านั้น แต่ก็พยายามจะหยุดร้องไห้ เพราะฉันไม่ใช่นักร้องที่จะร้องไห้ไปด้วยขณะอัดเสียง ตอนนั้นฉันตระหนักและรู้ซึ้งว่าสถานที่และช่วงเวลาเดิม ๆ ที่ฉันเคยบันทึกเสียงเพลงนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปมากเพียงใด” ภาคดนตรีและเสียงร้องของเพลง ‘Reflection’ ในเวอร์ชันล่าสุดแตกต่างจากเวอร์ชันเก่าอย่างมาก โดยมีการปรับดนตรีจากป๊อป อาร์แอนด์บี ให้กลายมาเป็นแบบออร์เคสตรา ป๊อป ที่ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่อลังการมากกว่าเดิม อีกทั้งการร้องของอากีเลร่าในเวอร์ชันนี้ก็เปี่ยมไปด้วยพลังและความสุขุม

อากีเลร่าเคยให้สัมภาษณ์เมื่อปี 1998 ว่า นอกจากเพลงนี้จะเปลี่ยนชีวิตเธอแล้ว น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเบื้องหลังของเสียงอันทรงพลังของเธอ มาจากการโดนไล่ให้ไปเรียนร้องเพลงเพิ่มอย่างจริงจัง

“อันที่จริงตอนเตรียมตัวและระหว่างการบันทึกเสียง ฉันได้ไปเรียนร้องเพลงอย่างจริงจังครั้งแรกเพื่อช่วยเรื่องเทคนิคต่าง ๆ เวลาร้องโน้ตเสียงสูง ๆ รวมไปถึงเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเสียงด้วย ที่จริงฉันชอบมันมากจนเรียนต่อมาเรื่อย ๆ ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคนเราสามารถเข้าถึงโน้ตได้กี่วิธี และเคล็ดลับระหว่างการบันทึกเสียงของฉันก็คือ ฉันชอบดื่มน้ำร้อนและน้ำผึ้งจำนวนมากเลยแหละ”

ชีวิตส่วนตัวของอากีเลร่ามีความเชื่อมโยงกับตัวละครมู่หลาน ในแง่ที่ว่าการทำงานในวงการดนตรีของเธอนั้นไม่ต่างกับการเป็นนักรบคนหนึ่งที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ที่เข้ามา

“การเป็นนักรบและนักสู้คือสิ่งที่เป็นส่วนสำคัญตลอดการทำเพลงในอาชีพของฉัน ดังนั้นการนำสิ่งเหล่านั้นกลับมาฉายอีกครั้งในภาพยนตร์ที่สวยงามเช่นนี้ เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ชวนให้นึกถึงและมีความหมายมาก ๆ” เมื่อตอนอายุ 4 ขวบ อากีเลร่าต้องพบประสบการณ์อันเลวร้ายที่สร้างรอยแผลเป็นให้เธอในวัยเด็ก หลังจากถูกพ่อแท้ ๆ ทำร้ายร่างกายถึงขนาดนอนจมกองเลือดมาแล้ว ซึ่งอากีเลร่าก็เปิดเผยว่า เธอรู้สึกขอบคุณความเจ็บปวดเหล่านั้น เพราะหากไม่มีมัน เธอคงไม่ได้รู้จักสิ่งที่เรียกว่าดนตรี

แม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับนักร้องดังอย่าง คริสติน่า อากีเลร่า จะเป็นเรื่องที่น่าเศร้าและโหดร้าย ที่ไม่ว่าใครก็ไม่สมควรถูกกระทำเช่นนี้ แต่อย่างน้อย เหตุการณ์ที่ผ่านมาของเธอก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอเป็นนักร้องดัง และคนทั่วโลกได้รู้จักเธอ ในนามของนักร้องดังที่มีชื่อว่า “Christina Aguilera

Christina Aguilera