Beyoncé ตัวแม่ยุค2000
บียอนเซ่ จิเซลล์ โนวส์ (Beyoncé Giselle Knowles) เกิดเมื่อวันที่ 4 กันยายน ค.ศ. 1981 เป็นนักร้องสไตล์อาร์แอนด์บี, นักแต่งเพลง, โปรดิวเซอร์, นักแสดง และ นางแบบ ชาวอเมริกัน เธอเกิดและเติบโตที่ฮิวส์ตัน รัฐเท็กซัส ในวัยเด็ก บียอนเซ่ได้เข้าร่วมในการแสดงหลากหลายเรียนอนุบาลถึงประถม ซึ่งรวมไปถึงการร้องเพลง อันเป็นการปูทางสำหรับอาชีพการเป็นนักร้อง บียอนเซ่เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในช่วงปี 1990 ในฐานะสมาชิกคนสำคัญของDestiny’s Child
วงดนตรีหญิงล้วนแนวอาร์แอนด์บีชื่อดังในยุคนั้น ตลอดชีวิตการทำงานของเธอ มียอดขายเกินกว่า 100 ล้านชุดในฐานะศิลปินเดียว ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2003 ระหว่างการพักงานของDestiny’s Childได้ออกอัลบั้มในฐานะศิลปินเดี่ยวเป็น ครั้งแรกกับ อัลบั้มDangerously in love ซึ่งนับเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดอัลบั้มหนึ่งในปีนั้น อัลบั้มนี้ประสบความสำเร็จทั้งในด้านยอดขายและด้านคำวิจารณ์ต่างๆ ทำให้มีเพลงฮิตเช่นเพลง “Crazy in love”, “Baby Boy” และได้รับรางวัลแกรมมีถึง 5 สาขา จนต่อมาDestiny’s Childก็ได้ตัดสินใจแยกวงจากเป็นทางการ หลังจากนั้น เธอก็ได้มีอัลบั้มชุดที่สอง นั่นก็คืออัลบั้มB’Day บีย่องเซ่มีซิงเกิลที่ติดอันดับ 1 อยู่ทั้งหมด 5 เพลงด้วยกัน ทำให้เธอเป็นหนึ่งในสองศิลปินหญิงที่มีเพลงติดอันดับหนึ่งมากที่สุดในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 2000
รวม 10 เพลงฮิตบียอนเซ่
- Crazy in love (ปี 2546)
หลังจากที่มีผลงานกับวง Destiny’s child จนคนรู้จักเธอกันไปทั่วโลก บียอนเซ่ก็ได้มากับอัลบั้มเดี่ยวอย่าง Dangerously in love ที่มีเพลงฮิตของยุคอย่าง Crazy in love ที่โชว์การร้องและเต้นที่แข็งแรง และความเซ็กซี่ที่เป็นธรรมชาติของบียอนเซ่จนทำให้คนตะลึง
- Check on it (ปี 2549)
นอกจากจะมีงานเพลงแล้ว บียอนเซ่ ก็มีงานแสดงด้วย จึงไม่แปลกที่เธอจะได้รับเลือกให้ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ที่เธอแสดง และเพลง Check on it ที่เธอได้ร้องประกอบภาพยนตร์ Pink Panther นั้นก็ได้รับความนิยมจนขึ้นอันดับ 1 ของ Billbaord hot 100
- Deja Vu (ปี 2549)
เพลงจากอัลบั้ม B’day ของบียอนเซ่ที่ได้ว่าที่สามีในตอนนั้นมาร่วมแจม เป็นเพลงที่โชว์เสน่ห์อันเป็นธรรมชาติของบียอนเซ่ บวกกับอินเนอร์ในการแสดงของเธอ และทำให้หลายคนได้เห็นมุมของบียอนเซ่ที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นจากอัลบั้มแรกด้วย
- Irreplaceable (ปี 2549)
มาต่อที่เพลงช้าความหมายดีของบียอนเซ่ โดยนอกจากเพลงสุดเซ็กซี่ที่โดนใจหนุ่มๆแล้ว ควีนบีอย่างเธอก็ทำเพลงในฐานะกระบอกเสียงบอกความในใจของสาวๆด้วย กับเพลงอย่าง Irreplaceable ที่พูดถึงการจากกับคนรักแต่เราไม่เเคร์ เพราะเราเองสามารถอยู่ได้แบบไม่มีเขา และสามารถหาคนรักใหม่ได้เสมอ เป็นเพลงนี่เหมาะกับสาวเริ่ดเชิดโสดแบบสุดๆ
- Listen (ปี 2550)
ถ้าพูดเพลงที่ได้รับความนิยมในการใช้ประกวดร้องเพลงแนวพ่นไป หลายๆคนคงจะนึกถึงเพลงเก่าๆมากกว่าเพลงในยุค 2000s แต่ในปี 2550 บียอนเซ่ก็ได้มากลับเพลง Listen จากภาพยนตร์ Dreamgirls ที่โชว์พลังเสียงของเธอได้แบบสุดยอดมาก จนทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงสุดฮิตตามเวทีประกวดมากมาย และการแสดงในเรื่อง Dreamgirls ก็ทำให้บียอนเซ่ ได้เข้าชิงรางวัลด้านการแสดงจากเวทีลูกโลกทองคำด้วย
- Single ladies (Put the ring on it) ปี 2551
มาถึงเพลงจากอัลบั้ม I Am… Sasha Fierce ของบียอนเซ่ ที่เป็นเพลงเต้นแนวย้อนยุค ที่มีท่าเต้นอันเป็นเอกลักษณ์จนปลุกกระแสการเต้นคัฟเวอร์ในฝั่งโลกตะวันตกขึ้นมาเลย โดยสำหรับวงการเพลงตะวันตกบียอนเซ่นั้นคือผูนำเทรนด์หลายๆอย่างเลย ไม่ว่าจะเทรนด์ความงามด้านการแต่งตัว หรือ หุ่น และรวมถึงงานเพลงที่ทำให้ศิลปินหลายคนอยากทำตาม
- If I were a boy (ปี 2551)
อีกบทเพลงของ บียอนเซ่ ที่แต่งมาจากความในใจของผู้หญิงหลายๆคน โดยเพลงนี้พูดถึงสิ่งที่ผู้หญิงจะทำถ้าพวกเธอเกิดเป็นผู้ชาย เป็นเพลงรักที่โดนใจผู้หญิงหลายคนที่อยู่ในความสัมพันธ์ที่เจ็บปวด จนทำให้เพลงนี้กลายเป็นอีกเพลงที่ขึ้นหิ้งของเธอเลย
- Halo (ปี 2552)
มาต่อที่อีกงานเพลงของอัลบั้ม I Am… Sasha Fierce ที่พูดถึงการได้พบรัก เป็นเพลงรักแนวฟีลกู๊ดที่หลายคนชื่นชอบ เพราะหลายคนเองก็อยากจะเจอคนที่ใช่เหมือนกับในเพลงนี้ เรียกได้ว่าเพลงจากอัลบั้มชุดนี้ของบียอนเซ่ นั้นครบรสชาติและไม่เหมือนใครเลย ด้วยการผสานโลกยุคก่อนและยุคใหม่เข้าด้วยกันของอัลบั้มนี้
- Best thing i never had (ปี 2554)
สำหรับเพลงนี้นั้น คืออีกเพลงที่พูดถึงการแยกทางในมุมมองบวก ที่พูดถึงการเห็นธาตุแท้ของคนรักนิสัยเลวๆ ที่ทำให้เราได้ตาสว่าง และสิ่งที่เจ๋งที่สุดของเพลงนี้คือเอ็มวีที่แสดงถึงการเธอได้แต่งงานอย่างมีความสุขและไม่ต้องไปทนทุกข์กับผู้ชายที่จะทำให้เธอเสียใจ และนอกจากเพลงนี้ ก็ในอัลบั้ม 4 ก็ยังมีเพลง Run the world ที่พูดถึงพลังอำนาจของผู้หญิงอีกด้วย
- Haunted (ปี 2557)
ปิดท้ายด้วยเพลงจากภาพยนตร์เรื่อง Fifty shades of grey ที่ถึงแม้จะไม่ได้รับความนิยมมาก แต่เพลงนี้นั้นเรียกได้ว่าเป็นเพลงที่เซ็กซี่ที่สุดเพลงหนึ่งของบียอนเซ่เลย เพราะเพลงนี้พูดถึงการหลงไหลในความรักผ่านดนตรีและเอ็มวีที่หลายคนไม่เคยเห็นบียอนเซ่ทำมาก่อน เป็นอีกมุมของควีนบี ที่ทำให้แฟนๆตกอยู่ภวังค์เมื่อได้ฟังงานนี้ของเธอ
ติดตามต่อที่ : Jennifer Lopez