MSNคืออะไร?
วันที่ 24 สิงหาคม 1995 คือวันที่ โปรแกรม MSN เปิดให้บริการครั้งแรก พร้อมๆกับ ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ Windows 95 หากวัยรุ่นทุกวันนี้ ยังไม่เข้าใจ MSNคืออะไร? ดังนั้นต้องมาขยายความกันก่อนMSN มีชื่อเรียกเต็มว่าMSN Messenger ย่อมาจาก Microsoft Network Messenger หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Window Live Messenger โดย Microsoft โดยMSN คือ โปรแกรมรับส่งข้อความออนไลน์แบบทันที หรือ Instant messenger ไม่ต่างอะไรจากไลน์, เทเลแกรม, หรือ บีบี เพียงแต่ MSN ใช้ส่งข้อความจากคอมฯเครื่องหนึ่ง ไปยังเครื่องหนึ่ง ไม่ใช่จากถือมือสู่มือถือแบบทุกวันนี้
โปรแกรม MSN ไม่ได้ฮิตติดใจวัยรุ่นผู้ใช้อินเตอร์เน็ต แบบทันทีทันใด ในช่วงแรก เพราะว่า มันต้องใช้เวลาหลายปี กว่าจะที่จะมาเป็น โปรแกรมแชท อันดับหนึ่ง ในช่วงยุคปลาย 1990s ต่อเนื่องมาถึงยุคมิลเลเนียม สำหรับMSN หรือ Microsoft Network เป็น Web Portal หรือเว็บไซต์ที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว เปิดให้บริการโดยบริษัท Microsoft โดยในตอนแรกนั้นMSN เกิดมาเพื่อมาเป็นคู่แข่งของโปรแกรมแชต AIM ของค่าย AOL ซึ่งทั้งคู่ต่างก็ครองตลาดตีคู่กันมาอยู่พักใหญ่ๆทีเดียว
โดยในช่วงเวลาแห่งความป็อปปูลาร์ อยู่บนยอดคามนิยมครองใจวัยรุ่นนั้น ทางด้านของMSN Messenger ได้มีการอัพเดทเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆมากมาย แถมลูกเล่นก็มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องอาทิ เช่น Emoticon, ระบบ Nudge สั่นหน้าต่างแชต ให้คู่สนทนาของเราได้ตกใจกันไป, หรือเล่นเกมส์ออนไลน์เช่น Minesweeper ร่วมกับเพื่อนที่กำลังแชตอยู่หรือการส่งไฟล์ Emoticon แบบเคลื่อนไหวไปถล่มหน้าจอของเพื่อนที่กำลังแชตอยู่ เป็นต้น
สิ่งที่คนทันใช้MSN จะต้องเคยเจอ
- ตั้งสเตตัสเป็นชื่อเพลงที่ฟังอยู่
ในMSN Messenger จะมีฟีเจอร์ที่ให้เราสามารถเลือกแสดงชื่อเพลงที่เรากำลังเปิดในโปรแกรมเล่นเพลงเป็นชื่อสเตตัสต่อท้ายชื่อเราในMSN Messenger ได้ ซึ่งมันจะแสดงและเปลี่ยนชื่อเพลงตามโปรแกรมเล่นเพลงอัตโนมัติ แต่ก็ต้องระวังนิดนึงสำหรับใครที่ชอบเปิดดูหนังผู้ใหญ่ เพราะมันอาจจะขึ้นชื่อหนังโผล่มาให้คนอื่นรู้ว่าเราดูอะไรอยู่ก็ได้นะ
- แอบออนแบบ Appear Offline
บางครั้งเราก็อยากออนMSN Messenger แบบเงียบ ๆ โดยไม่ให้ใครรู้ เพราะไม่อยากให้คนนั้นคนนี้มาทักชวนคุยเพราะเราไม่ค่อยว่าง แต่ก็ยังอยากคุยกับบางคน เช่น คนที่ซี้กันหรือคนพิเศษ ก็เลยตั้งเป็น Appear Offline ไว้ คนอื่นก็จะไม่เห็นว่าเราออนไลน์อยู่ อยากคุยกับใครเราก็เป็นฝ่ายทักไปหาเอง
- ส่ง Nudge ไปรัวๆ
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่มีทั้งคนชอบและคนเกลียด คนส่งก็กด Nudge ไปให้หน้าจออีกฝ่ายสั่นรัว ๆ พร้อมเสียงสุดกวนประสาท และคนที่ได้รับหลายคนก็รู้สึกรำคาญพอสมควร แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นลูกเล่นที่เอาไว้แกล้งเพื่อนได้สนุกพอสมควรเลยล่ะ
- นึกว่าออฟไลน์… ที่แท้โดนบล็อก…
เมื่อเราเห็นเพื่อนบางคนที่อยู่ ๆ ก็หายหน้าหายตาไป ไม่ออนMSN Messenger เลยเป็นเวลานาน เราก็นึกว่าอาจจะไม่ค่อยว่างหรือออนเวลาไม่ตรงกัน แต่แล้วเมื่อเราแอบเห็นเพื่อนคนอื่นกำลังแชตกับเพื่อนคนนี้แบบออนไลน์อยู่ แต่เรากลับไม่เห็นเพื่อนคนนี้ออนไลน์ ก็แสดงว่าเราโดนบล็อกเข้าให้แล้วล่ะ
- เห็นเขากำลังพิมพ์… แล้วก็เงียบหายไป…
ในMSN Messenger ขณะที่อีกฝ่ายกำลังพิมพ์ข้อความอยู่ เราจะเห็นโปรแกรมแจ้งบอกว่าอีกฝ่ายกำลัง Typing… แต่เมื่อเรารออ่านว่าอีกฝ่ายจะพิมพ์อะไรมา บางทีรอตั้งนาน สุดท้ายก็ไม่มีข้อความอะไรถูกส่งมาเลย ก็ได้แต่แอบสงสัยว่า ตกลงเขาคิดจะพิมพ์อะไรมาหาเรากันแน่น
MSNหายไปไหน?
ปี 2004 MSNมีผู้ใช้งานประมาณ 115 ล้านบัญชี ขณะที่ ปี 2011 คือช่วงรุ่งเรือง แสงสว่างสปอร์ตไลท์สาดส่องมากที่สุดของMSN เพราะมีผู้ใช้งานประมาณ 330 ล้านบัญชี อย่างไรก็ตาม ความเปลี่ยนแปลงนับได้ว่า เป็นสัจจะธรรมของโลก เพราะจากการเข้ามาของโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่นๆ และแอปพลิเคชันต่างๆ ที่สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น ก็ทำให้ทาง Microsoft เลือกที่จะปิดให้บริการในส่วนของการส่งข้อความMSN ไปเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ และคำว่าMSN ก็ได้เปลี่ยนรูปแบบไปต่างจากเดิม คือได้กลายเป็น เว็บไซต์ที่ได้ให้บริการข้อมูลข่าวสาร
ณ จุดสูงสุดของMSN ในปี 2011 คือจุดเริ่มต้นสู่ความถดถอย เพราะนั่นคือปีเดียวกับที่ Facebook เปิดตัว Facebook Messenger โดยในขณะนั้น Facebook มีผู้ใช้งานประมาณ 845 ล้านบัญชีที่พร้อมจะหันไปใช้ Facebook Messenger ทันที
นอกจากนั้นMSN ยังถูกตีขนาบด้วยคู่แข่งรายใหญ่ ได้แก่ WhatsApp ซึ่งภายหลังถูกซื้อโดย Facebook เช่นกัน และอีกรายคือ BlackBerry ซึ่งแม้ปัจจุบันจะหมดความนิยมไปแล้ว แต่ในตอนนั้น Black Berry เป็นหนึ่งในโปรแกรม Mobile instant messenger ยอดนิยมทั้งวัยรุ่นและคนทำงาน
ณ เวลานี้MSN ที่เป็นโปรแกรมแชท โลกออนไลน์ในระดับตำนาน ซึ่งปิดตัวลงไปในช่วงเมษายน 2013 MSNคงจะหลงเหลือทิ้งไว้ก็แค่เพียง ความทรงจำดีๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง เก็บเอาไว้ให้คิดถึงและยิ้มไปกับมัน
ติดตามเรื่องราวY2K : คดีฆาตกรรม
